วิธีเล่นบาคาร่า เป็นเกมการพนันที่ใช้ไพ่ในการเล่น โดยผู้เล่นต้องทำการเดิมพันในผลลัพธ์ของการแจกไพ่ระหว่าง “ผู้เล่น” กับ “แบงค์” หรือ “เสมอ” ในระหว่างที่ผู้เล่นไม่ต้องการทำการแจกให้เป็นฝ่ายของตนเอง (Player) หรือฝ่ายของคาสิโนหรือผู้คนอื่น (Banker) และในบาคาร่าเวอร์ชั่นบาคาร่าคลาสสิก ยังมีตัวเลือกในการเดิมพันที่เรียกว่า “เสมอ” (Tie) ซึ่งหมายถึงการเดิมพันว่าผลรวมของไพ่ระหว่างผู้เล่นและแบงค์จะเท่ากัน แต่อย่างไรก็ตามทางเลือกนี้มีโอกาสชนะที่น้อยกว่าและมักจะมีอัตราการจ่ายเงินสูงกว่าการเดิมพันในฝ่ายผู้เล่นหรือแบงค์ ผู้เล่นต้องเดิมพันเลือกว่าคนหนึ่งใน “ผู้เล่น” และ “แบงค์” จะได้รับแต้มจากการแจกไพ่ใกล้เคียงกับ 9 หรือใกล้เคียงกับ 9 มากที่สุดนั้งเอง
นอกจากนี้ VMAXBACCARAT ยังมีเกมเดิมพันคาสิโนออนไลน์บาคาร่า มีให้ทุกท่าน ได้เข้าเลือกเล่นและเลือกเข้ามาสัมผัสกับบรรยากาศของห้องบาคาร่าได้อย่างเต็มพิกัด ตลอด 24 ชั่วโมง
วิธีเล่นบาคาร่า และการแจกไพ่ในเกมบาคาร่า
- แจกไพ่ให้กับ ผู้เล่น” และ แบงค์ ในรอบแรก ไพ่จะถูกแจกให้กับผู้เล่นและแบงค์ โดยแจกไพ่ทีละใบต่อเนื่องกัน โดยไพ่จะถูกวางตามตำแหน่งที่เก็บไพ่ข้างหน้าแต่ละฝ่าย ไพ่แต่ละใบจะเปิดเผยก่อนที่จะไปวางไว้ข้างหน้าของผู้เล่นและแบงค์
- คำนวณคะแนนของไพ่: ไพ่ในเกมบาคาร่ามีระบบคะแนนที่แตกต่างกันจากเกมอื่น ๆ คะแนนของไพ่คิดตามค่าเลขบนไพ่ เท่ากับ เลข 2-9 คะแนนเท่ากับตัวเลขของไพ่ ๆ 10, J, Q, K ไม่มีคะแนน (มีค่าเป็น 0 คะแนน) ไพ่ A มีคะแนนเท่ากับ 1
- ตัดไพ่ หากผู้เล่นหรือแบงค์ได้รับไพ่สองใบแรกแล้วคะแนนรวมของไพ่ในการแจกมีค่าเท่ากับ 8 หรือ 9 แต่ละฝ่ายจะต้องออกแบบยุทธการตามกฎและต้องทำการเปรียบเทียบคะแนนกันเพื่อกำหนดผลลัพธ์ของรอบนั้นๆ
ตัวเลือกเดิมพันทั้งหมด ในเกมบาคาร่า มีอะไรบ้าง
- เดิมพันผู้เล่น (Player): นักพนันสามารถวางเดิมพันว่าผู้เล่นจะได้คะแนนรวมมากกว่าแบงค์หรือไม่ หากผู้เล่นชนะการแข่งขันแล้ว รางวัลจะจ่ายเป็นอัตราเดิมพัน 1:1 (หรือเท่ากับเงินที่เดิมพัน)
- เดิมพันแบงค์ (Banker): นักพนันสามารถวางเดิมพันว่าแบงค์จะได้คะแนนรวมมากกว่าผู้เล่นหรือไม่ หากแบงค์ชนะการแข่งขันแล้ว รางวัลจะจ่ายเป็นอัตราเดิมพัน 1:1 (บางครั้งคาสิโนอาจเก็บค่าคอมมิชชั่นจากการเดิมพันแบงค์)
- เดิมพันเสมอ (Tie): นักพนันสามารถวางเดิมพันว่าผลรวมของคะแนนระหว่างผู้เล่นและแบงค์จะเท่ากัน (เสมอ) หากผลรวมเท่ากันแล้ว รางวัลจะจ่ายเป็นอัตราเดิมพัน 8:1 หรือ 9:1 (ขึ้นอยู่กับกฎของแต่ละคาสิโน)
สามารถวางเดิมพันในสองฝ่าย (ผู้เล่นและแบงค์) หรือเดิมพันเสมอพร้อมกันได้ แต่ไม่สามารถวางเดิมพันบนผลเสมอพร้อมกับวางเดิมพันฝ่ายอื่นได้ โดยทั่วไปแล้ว เดิมพันแบงค์จะมีโอกาสชนะสูงกว่าเดิมพันผู้เล่น และการวางเดิมพันเสมอจะมีอัตราการจ่ายเงินที่สูง แต่ก็มีโอกาสชนะที่น้อยกว่าฝ่ายอื่น ๆ
วิธีการอ่านผลของเกมบาคาร่าเมื่อเกมสิ้นสุดลง
ถ้าฝ่าย “ผู้เล่น” หรือ “แบงค์” มีคะแนนรวมเท่ากับ 8 หรือ 9 (เรียกว่า “นาที” หรือ “นกก้านฮ่อย”):
- ถ้าฝ่าย “ผู้เล่น” หรือ “แบงค์” มีคะแนนรวมเท่ากับ 8 หรือ 9 ทั้งคู่ (เสมอ), เกมจะสิ้นสุดทันทีโดยไม่ต้องมีการเปรียบเทียบไพ่เพิ่ม
- ถ้าฝ่าย “ผู้เล่น” หรือ “แบงค์” มีคะแนนรวมเท่ากับ 8 หรือ 9 ในขณะที่อีกฝ่ายมีคะแนนรวมต่ำกว่า, ฝ่ายที่มีคะแนนรวม 8 หรือ 9 จะชนะเกมนั้น
ถ้าฝ่าย “ผู้เล่น” หรือ “แบงค์” มีคะแนนรวมเท่ากับ 6 หรือ 7:
- ถ้าฝ่าย “ผู้เล่น” หรือ “แบงค์” มีคะแนนรวมเท่ากับ 6 หรือ 7 จะต้องยืนอยู่และไม่ต้องรับไพ่เพิ่มเติม
ถ้าฝ่าย “ผู้เล่น” มีคะแนนรวมเท่ากับ 0-5:
- ถ้าฝ่าย “ผู้เล่น” มีคะแนนรวมเท่ากับ 0-5 จะต้องรับไพ่เพิ่ม 1 ใบตามกฎที่กำหนด (กฎเพิ่มเติมที่ยกมาข้างต้น)
- หลังจากไพ่ถูกเพิ่มแล้ว จะต้องนับคะแนนใหม่เพื่อกำหนดผู้ชนะ
หลังจากที่คะแนนรวมของทั้งฝ่ายถูกคำนวณแล้ว ผู้ที่มีคะแนนใกล้เคียงกับ 9 จะเป็นฝ่ายชนะ และถ้าผลรวมของคะแนนรวมเท่ากันก็เป็นเสมอ (Tie) แต่อย่างไรก็ตามเดิมพันแบงค์มักจะมีโอกาสชนะสูงกว่า แต่ก็มีอัตราการจ่ายเงินที่ต่ำกว่าเดิมพันผู้เล่น ส่วนเดิมพันเสมอมีอัตราการจ่ายเงินที่สูง การอ่านผลเกมบาคาร่านั้นเป็นเรื่องง่ายและไม่ซับซ้อน และผู้เล่นสามารถเล่นและเพลิดเพลินกับเกมนี้ได้อย่างง่ายดาย
สิ่งที่ต้องระวังในการเข้าเล่นบาคาร่า
- การจัดการเงินเป็นสิ่งที่สำคัญในการเล่นเกมการพนันใดๆ ควรกำหนดวงเงินที่พร้อมที่จะเสี่ยงในแต่ละครั้งและปฏิบัติตามกำหนดเพื่อไม่ให้เสียเงินมากเกินกว่าที่คุณสามารถรับได้
- ระมัดระวังในการเดิมพันเสมอ มีอัตราการจ่ายเงินที่สูง แต่โอกาสที่จะเกิดการเสมอในเกมบาคาร่านั้นน้อยมาก ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการวางเดิมพันเสมอในส่วนใหญ่
- เลือกคาสิโนที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้คุณมั่นใจในความเป็นธรรมและความปลอดภัยในการเล่น